การที่คนตายไปแล้วไปเกิดเป็นอะไรนั้น คนตายเท่านั้นที่สามารถรู้ได้ในเวลาใกล้จะสิ้นใจญาติๆ ไม่สามารถที่จะทราบได้
แต่ท่านมีหลักตรวจสอบ คือ สำหรับคนตาย มีนิมิต ๕ ประเภทคือ
๑. อัคคิขันโธ เปตะโลเก เห็นกองไฟในขณะดับจิต จะเกิดเป็นเปรต
๒. มังสเปสิ มะนุสเสสิ เห็นก้อนเนื้อในขณะจะดับจิต จะเกิดเป็นมนุษย์
๓. อันธการัง นิรเย เห็นเมฆหมอกมืด เกิดเป็นสัตว์นรก
๔. วะนะชะฏัง ติรัจฉาเน เห็นป่ารกชัฏในขณะจะดับจิต เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
๕. วิมานัง เทวะโลเก เห็นวิมานในขณะดับจิต เกิดเป็นเทวดา
สำหรับคนที่นั่งเฝ้าไข้ดูใจ มีหลักการดูการเกิดของญาติ คือ
๑. ปะชุณเห นิระเย คะเต ถ้าตายในเวลากลางคืน เกิดเป็นสัตว์นรก
๒. เปเต อัฎฐัง คเต ปิจะ ถ้าตายในเวลาย่ำค่ำ เกิดเป็นเปรต
๓. สายัณเห ติรัจฉาเน ตายในเวลาสายัณห์ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
๔. ปุพพัณเห มะนุสเส ตายในเวลาเช้า กลางวัน เกิดเป็นมนุษย์
๕. อัฑฒะคะเต เทวะโลเก ตายในเวลาจวนสว่าง เกิดเป็นเทวดา
ญาติอยู่ข้างหลัง อาจจะรู้ว่าญาติของตน ตายแล้วไปเกิดเป็นอะไร จากเวลาตายของเขาดังที่ได้กล่าวมา ดังนี้
ใช้วิจารณญาณ ประกอบความเชื่อครับ
ตายแล้วไปไหน ตายแล้วไปตามแรงกรรม ครับ แน่นอนที่สุด
หมั่นทำความดี กันไว้ครับ ไม่ใช่แค่ทำบุญทำทาน นะ ต้องเจริญวิปัสนา ไปเรื่อย ๆ
มีสติ รู้กาย รู้ใจ (จำเค้ามา แต่ใช้ได้ผลจริง ๆ )
ที่มา : http://www.watkhuhasawan.com/webboard/index.php?topic=91.0
..

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น